คาร์ซีทมีผลบังคับใช้ ฝ่าฝืนปรับ 2พัน กฎหมายคาร์ซีทคืออะไร?

การใช้คาร์ซีทเป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบัน!

เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็กในระหว่างการเดินทางเพื่อให้เด็กได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่กฎหมายคาร์ซีทในประเทศไทยจึงได้รับการกำหนดให้มีการใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กเมื่อต้องนั่งรถยนต์โดยเน้นให้เด็กได้รับการคุ้มครองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง ตามกฎหมายคาร์ซีทในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษาระบุว่าเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ปีจะต้องนั่งบนคาร์ซีทหรือบูสเตอร์ซีทในขณะที่ยานพาหนะกำลังเคลื่อนที่อยู่จะต้องใส่เข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับจำนวน 2,000บาท! และจะต้องใช้คาร์ซีทที่เหมาะสมตรงตามมาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ยังต้องติดตั้งคาร์ซีทตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างถูกต้องอีกด้วย รวมถึงผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้เข็มขัดนิรภัย และการจัดวางคาร์ซีทในตำแหน่งที่เหมาะสมและอื่นๆ การใช้คาร์ซีทในประเทศไทยเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้เด็กได้รับการปกป้องจากอันตรายและมีความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการเดินทาง

การติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กตามกฎหมาย

การติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในระหว่างการขับขี่รถยนต์ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ซึ่งกำหนดให้เด็กต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเมื่อโดยสารรถยนต์โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้

  • เด็กอายุไม่เกิน1 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 13 กิโลกรัม ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยชนิดหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)
  •  เด็กอายุตั้งแต่1 ปีขึ้นไปและมีน้ำหนักตัวเกิน 13 กิโลกรัม ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยชนิดหันหน้าออกจากเบาะ (Forward-Facing Seat) ที่ติดตั้งสายคาดแบบเส้นทแยงมุมหรือเบาะนวมป้องกันการกระแทก (ImpactCushion)

การติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กต้องเป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิตและมีการตรวจสอบว่าเบาะนั่งติดตั้งถูกต้องและใช้งานได้อย่าง100% โดยเด็กต้องนั่งในเบาะนั่งสำหรับเด็กตลอดเวลาที่โดยสารรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะสั้นหรือยาวนอกจากนี้ควรมีการตรวจสอบเบาะนั่งสำหรับเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเบาะนั่งยังมีความปลอดภัยไม่มีส่วนที่แตกหรือเสียหายที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง

กฎหมายการตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์

ตามกฎหมายรถยนต์ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2565 ที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้โดยสารในรถยนต์การตรวจสอบรถยนต์จะต้องดำเนินการทุกๆ 6 เดือนหรือในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในเอกสารทะเบียนรถยนต์ซึ่งครอบคลุมถึงการตรวจสอบระบบต่างๆ ของรถยนต์ เช่น ระบบเบรก ระบบไฟฟ้าระบบเครื่องยนต์ ระบบระบายความร้อน และส่วนอื่นๆที่มีผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารนอกจากการตรวจสอบแล้วผู้ขับขี่จะต้องดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เป็นประจำเช่นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการตรวจสอบระบบการทำงานของรถยนต์นอกจากนี้การตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือเสียหายก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ขับขี่และผู้ใช้รถยนต์เพราะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ได้ในอนาคต

วิธีเลือกใช้คาร์ซีทให้ถูกต้องตามความเหมาะสมมีอะไรบ้าง?

  • เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสม คาร์ซีทควรเลือกตามอายุ น้ำหนัก และความสูงของเด็ก เลือกคาร์ซีทที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสมสำหรับการใช้งานของเด็กในรถยนต์
  • ตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนการใช้งาน ตรวจสอบคาร์ซีทว่ามีการติดตั้งและใช้งานตามคู่มือการใช้งานอย่างถูกต้อง
  • ติดตั้งให้ถูกต้อง  ติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ให้ถูกต้องตามคำแนะนำตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกติดตั้งในที่ที่เหมาะสม
  • ความรับผิดชอบของผู้ปกครอง รับผิดชอบในการดูแลเด็กและใช้งานคาร์ซีทอย่างถูกต้องตลอดเวลา

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้เด็กปลอดภัยในรถยนต์และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดการเลือกและการใช้คาร์ซีทในรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้เด็กปลอดภัยในการเดินทาง เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพ่อแม่มือใหม่