รวมเรื่องควรรู้ในการเลือกรถเข็นเด็ก ตัวช่วยเด็ดของพ่อแม่

ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่หรือมืออาชีพ มักจะต้องเคยพูดประโยคหนึ่งที่ว่า“การเป็นพ่อแม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย“  ประโยคนี้คนที่เป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเองย่อมเข้าใจมากที่สุด ใช่ค่ะการเป็นพ่อแม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในโลกปัจจุบันได้มีการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วยให้กับพ่อแม่เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แบ่งเบาภาระต่างๆ รวมถึงทำให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย หนึ่งในนวัตกรรมเหล่านั้นคือ รถเข็นเด็ก ตัวช่วยเด็ดของพ่อแม่ วันนี้เรารวบรวมเรื่องควรรู้ในการเลือกรถเข็นเด็กมาเล่าให้ฟัง มีอะไรบ้างนั้นมาอ่านกันเลย

การเลือกรถเข็นเด็กในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ที่มีหลากหลายรุ่น หลากหลายแบบ หลากหลายราคาให้เลือกมากมาย จนเลือกไม่ถูก ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณและลูกน้อยมากที่สุดจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้

คำนึงถึงความปลอดภัย

นี่คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถเข็นเด็กที่เราจะเลือกนั้นตรงตามมาตรฐานความปลอดภัย มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด จุดล็อกที่ควรมี ได้แก่ ล็อกเอว ระหว่างขาและไหล่ ซึ่งตัวล็อกควรจะแน่นหนา ไม่ดึงหลุดง่าย ในขณะเดียวกันก็ไม่แน่นสำหรับเด็กจนเกินไป และปลดเข้าออกได้ไม่ยาก นอกจากนั้นก็ควรตรวจสอบเบรคที่แข็งแรงหรือไม่ ตัวล็อกรถหรือห้ามล้อหยุดดีหรือเปล่า และควรทดสอบในหลายๆพื้นผิว โครงสร้างทำมาจากอะไร ซึ่งรถเข็นเด็กส่วนใหญ่จะทำมาจากเหล็กหรืออลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาแต่ก็มีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีจุดหรือส่วนที่แหลมคมที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้

คำนึงถึงความสะดวกสบาย

ควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีเบาะนุ่ม พนักพิงปรับเอนได้ และที่วางเท้าปรับระดับได้ มีกันแดดที่ดี ปิดมิดชิด เพื่อลูกน้อยของเราจะได้นั่งสบายที่สุด พับเก็บและกางออกได้สะดวก มีน้ำหนักเบา และล้อหมุนได้คล่องตัว

คำนึงถึงการใช้งาน

ควรเลือกรถเข็นเด็กที่ใช้งานง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา เช่น หากมีลูกแฝดก็ควรเลือกแบบที่มี 2 ชั้น หากเป็นคนที่มีสัมภาระเยอะ ควรเลือกรุ่นที่มีตะกร้าจะช่วยให้ใส่ของได้ง่ายโดยไม่ต้องแบกพะรุงพะรัง หากชอบเดินทางควรเลือกแบบพับเล็กได้ พกพาสะดวก พาขึ้นเครื่องบินได้ หรือหากชอบเดินทางโดยรถยนต์ก็สามารถเลือกรุ่นที่ถอดเป็นคาร์ซีทได้ เป็นต้น

คำนึงถึงความเหมาะสมกับวัย

ปัจจุบันตลาดรถเข็นเด็กมีหลายประเภทให้เลือกซื้อ ซึ่งเราควรเลือกให้เหมาะกับเด็กวัยต่างๆ เช่น รถเข็นเด็กที่เหมาะกับเด็กแรกเกิด ควรเลือกรุ่นที่มีฟังค์ชั่นปรับเอนนอนได้หลายระดับ เพราะเด็กทารกยังไม่สามารถตั้งคอและนั่งหลังตรงได้ หรือรถเข็นเด็กที่เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปก็ควรเลือกรุ่นที่มีฟังค์ชั่นหมุนได้ 2 ทิศทาง นั้นคือหันหน้าเข้าหาผู้เข็น และหันหน้าออกจากผู้เข็น เพราะเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปเริ่มอยากให้พ่อ แม่ อยู่ในสายตาเสมอ เป็นต้น

คำนึงถึงงบประมาณ

รถเข็นเด็กมีหลายราคา ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น เลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

เคล็ดลับสำหรับการเลือกรถเข็นเด็ก

1. ลองเข็นรถเข็นเด็กจริงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อดูความลื่นไหลของล้อ และตรวจสอบระบบเบรกให้ดี
2. ตรวจสอบฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งหมด เพื่อดูว่าเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการไหม
3. อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ
4. เปรียบเทียบราคาจากหลายร้านค้า เพื่อหาราคาที่พึงพอใจที่สุด
5. เลือกรถเข็นเด็กที่ตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ 

ประเภทของรถเข็นเด็กส่วนใหญ่มีอยู่ 4 ประเภท

1. รถเข็นเด็กแบบแรกเกิด เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 6 เดือน มีเบาะนอนราบ พับเก็บได้สะดวก 
2. รถเข็นเด็กแบบปรับเอนนอน เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือนถึง 3 ปี ปรับเอนนอนได้ทั้งแบบราบและเอนนั่ง 
3. รถเข็นเด็กแบบน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทาง พับเก็บให้เล็กได้ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
4. รถเข็นเด็ก แบบวิ่งจ็อกกิ้ง ถูกออกแบบให้ใช้เข็นในความเร็วที่เทียบเท่ากับการวิ่งได้ เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย มีล้อขนาดใหญ่ บังคับทิศทางได้ง่าย 

แบรนด์รถเข็นเด็กยอดนิยม จากยูทูปช่อง PAMPAM AND FAMILY  ที่รีวิวข้อดี ข้อเสีย ของรถเข็นเด็ก 10 ยี่ห้อได้น่าสนใจมากๆ แต่ในที่นี้ขอเลือกมา 5 ยี่ห้อที่ถือเป็นคันโปรดของพวกเขา

Graco เป็นแบรนด์จากอเมริกา ซึ่งมีข้อดีคือเป็นทั้งรถเข็นและคาร์ซีทไปในตัวด้วย สะดวก สบาย ทูอินวัน เข็นง่าย นั่งสบาย คันใหญ่ แต่ข้อเสียคือพับเก็บยากและน้ำหนักเยอะ

Recaro ชอบเพราะคุณพ่อเป็นนักแข่งรถจึงอยากให้ลูกได้นั่งเบาะที่เหมือนเป็นเบาะรถแข่งด้วย ข้อดีคือเข็นง่าย เข็นลื่น แข็งแรง ข้อเสียคือปรับนอนไม่ได้

Ecoda แบรนด์เกาหลี น้ำหนักเบา แต่ใหญ่ พับได้นิดเดียว ปรับนอนได้เยอะ ข้อเสียคือล้อไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร

Looping เดินทางสะดวกมากเพราะพับได้โดยไม่ต้องเอาของที่อยู่ข้างใต้ออก พับเล็กสามารถเอาขึ้นเครื่องได้ เก็บแขน เก็บขาได้ มีที่เก็บขาที่สามารถปรับลงเมื่อไม่ได้ใช้

Qtus รถเข็นพี่น้องหรือฝาแฝด นั่งได้ 2 คน สามารถปรับได้ 2 ทิศทางคือหันไปทางหน้าหรือหันไปทางหลังได้ ล้อใหญ่ เข็นง่าย เก็บของได้เยอะ ข้อเสียคือรถคันใหญ่มาก

ข้อควรระวังในการใช้รถเข็นเด็ก

1. ไม่ควรให้ลูกนั่งรถเข็นนานเกิน 6 ชั่วโมง 
2. ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ในรถเข็นลำพังโดยไม่มีคนคอยดูแล
3. ไม่ใช้รถเข็นผิดวิธี เช่น นำไปบรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก
4. ไม่ควรใส่วัตถุมีคม เช่น มีด กรรไกร หรือวัตถุไวไฟ เอาไว้ในช่องต่างๆของรถเข็น
5. ควรอ่านคู่มือก่อนใช้งาน

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สำหรับเรื่องที่ควรรู้ในการเลือกรถเข็นเด็กให้ลูกๆ การเลือกรถเข็นที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกน้อยของคุณนั่งสบาย ปลอดภัย และพ่อแม่สะดวกสบายในการพาลูกออกไปเที่ยวด้วย รถเข็นเด็กแต่ละคันราคาอาจจะแพงพอประมาณขึ้นอยู่กับฟังค์ชั่นการใช้งาน อีกทั้งอาจต้องใช้บ่อยๆดังนั้นควรศึกษาก่อนการซื้อให้ละเอียด เพื่อที่จะได้ซื้อโดยที่ตอบโจทย์การใช้งานและพึงพอใจมากที่สุด หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณได้นะคะ