วิธีทำความสะอาดรถเข็นเด็ก และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

ไอเทมสำหรับเลี้ยงเด็กอย่างหนึ่งที่แทบทุกบ้านต้องมีนั่นคือ “รถเข็นเด็ก” แน่นอนว่าประโยชน์หลักๆ ก็คงจะเป็นในเรื่องของการอำนวยความสะดวก พ่อแม่บางท่านอาจมองว่าไม่ต้องมีก็ได้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่ามันจะช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลงได้จริงๆหากเปรียบเป็นรถยนต์คันหนึ่ง เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง รถเข็นเด็กก็ควรจะได้รับการทำความสะอาดด้วยเช่นกัน และถ้าคุณลองไปเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตจะพบว่าราคาในการจ้างซักรถเข็นเด็กนั้นแพงถึงหลักพันกันเลยทีเดียว เรามาทำความสะอาดรถเข็นเด็กกันค่ะ ทำได้ที่บ้าน สะดวก ประหยัดแถมวิธีการและอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่ได้มากเกินกำลังคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอน

อุปกรณ์และสิ่งที่ต้องเตรียม

  • น้ำยาซักผ้าสำหรับเด็ก
  • น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
  • น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับเด็ก
  • สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับเด็ก
  • แปรงขนาดเล็ก
  • เครื่องดูดฝุ่น+หัวดูดขนาดเล็ก
  • ผ้าสำหรับชุบน้ำ

ขั้นตอน

  1. แยกชิ้นส่วนที่สามารถถอดออกได้เพื่อนำไปซัก โดยสามารถซักได้ทั้งมือและซักเครื่อง 
  2. ในส่วนที่เป็นผ้าและถอดออกได้ให้นำมาแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อน 1 รอบ แล้วจึงนำไปแช่น้ำยาซักผ้าอีก 1 รอบ สำหรับน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถผสมกับน้ำยาซักผ้าได้ก็ให้ผสมและแช่ไว้ได้เลย หากไม่ได้ซักนานแนะนำว่าควรแช่ประมาณ 40 นาทีขึ้นไป แต่แนะนำว่าส่วนของผ้าคลุมปิดเปิดด้านบนให้ซักมือจะดีที่สุด เพราะด้วยขนาดที่อาจจะใหญ่ไม่สามารถลงเครื่องได้หรือหากลงเครื่องก็อาจทำให้เสียรูปทรงได้ ซึ่งมีผลต่อการใช้งาน หลังจากแช่ครบเวลาแล้วก็นำมาซักและล้างทำความสะอาดได้ตามปกติและแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ประมาณ 10-15 นาที นำไปตากแดดจนแห้งสนิท ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคอีก 1 รอบ ผึ่งลมให้แห้ง จากนั้นก็นำมาประกอบเพื่อใช้งานได้เลย
  3. ในส่วนของโครงพลาสติกและล้อรถเข็น ให้นำมาดูดฝุ่นจนทั่วทุกซอกมุม หลังจากนั้นให้ฉีดหรือล้างน้ำทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า 1 รอบ และใช้น้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อมาล้างอีก 1 รอบ หากส่วนไหนที่เล็กและทำความสะอาดยากสามารถใช้แปรงจุ่มน้ำและนำไปขัดถูได้ จากนั้นให้นำมาล้างทำความสะอาดหรือหากผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดไหนที่ไม่ต้องล้างออกก็สามารถนำโครงของรถเข็นไปผึ่งลมให้แห้ง ปิดจบด้วยขั้นตอนสุดท้ายคือฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคและนำไปผึ่งลมให้แห้งอีกสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็นำมาประกอบเพื่อใช้งานได้เลย ส่วนของล้อรถเข็นจะเป็นส่วนที่สัมผัสกับสกปรกได้มากที่สุด ดังนั้น ควรจะเน้นทำความสะอาดบริเวณนี้ให้มากและเช็คให้ดีอยู่เสมอว่าล้อยังใช้งานได้ดีหรือไม่มีอาการฝืดหรือว่าลื่นไหลกว่าปกติหรือเปล่า เพราะหากทำงานไม่ปกติก็อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

การทำความสะอาดรถเข็นเด็กโดยไม่ต้องถอดออกมาซัก

หากเปรียบเทียบการทำความสะอาดรถเข็นเด็กแบบถอดซักและไม่ถอดซัก ยังคงแนะนำให้ถอดชิ้นส่วนและนำไปซักมากกว่าค่ะ เพราะจะเป็นวิธีที่ทำความสะอาดได้เกลี้ยงเกลาหมดจดมากที่สุด สำหรับพ่อแม่ท่านไหนที่เวลาน้อย แต่ก็ยังกังวลในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยของลูก ก็แนะนำให้ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคฉีดพ่นส่วนต่างๆของรถเข็นเด็กจนทั่วและนำไปตากแดด 1 รอบ จากนั้นฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคอีก 1 รอบ ผึ่งลมไว้จนแห้งสนิทจึงนำมาใช้งาน

ข้อดีของการทำความสะอาดรถเข็นเด็กเอง

  1. ประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าราคาซักรถเข็นที่ร้านแพงเอามากๆ การทำความสะอาดเองที่บ้านจึงช่วยเซฟค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้พอสมควร
  2. มั่นใจในเรื่องความสะอาด การที่เราเป็นคนทำความสะอาดเองจะช่วยให้เราเห็นในทุกซอกทุกมุม ดังนั้น หากสังเกตให้ดีและเช็ครายละเอียดให้รอบคอบ ความสกปรก ฝุ่นและคราบต่างๆ ก็คงจะไม่เล็ดรอดผ่านสายตาเราไปได้อย่างแน่นอน 
  3. สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดเองได้ แม้ว่าการนำไปทำความสะอาดที่ร้าน ร้านอาจการันตีว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสำหรับเด็ก แต่คุณพ่อคุณแม่จะรู้ดีที่สุดว่าลูกเหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบใด เหมาะกับลูกเขาอาจไม่เหมาะกับลูกเรา ดังนั้น การซักทำความสะอาดรถเข็นเองก็จะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเองได้ ลดความกังวลส่วนนี้ไปได้อีกหนึ่งทาง 

สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้เกี่ยวกับการใช้รถเข็นเด็ก

  1. รถเข็นเด็กแต่ละแบบเหมาะสมกับเด็กที่มีอายุแตกต่างกันไป ควรพิจารณาในการซื้อให้ถี่ถ้วน เช่น รถเข็นเด็กที่มีขนาดใหญ่อาจไม่เหมาะสมกับเด็กวัยแรกเกิดที่ขนาดตัวเล็ก เพราะระหว่างการใช้งานอาจทำให้เด็กขยับตัวจนคว่ำหน้าและทำให้เด็กขาดอากาศหายใจได้ 
  2. รถเข็นเด็กทุกคันจะต้องมีเบรค ขณะเลือกซื้อควรเช็คให้ดีว่ารุ่นนั้นๆ ในส่วนของเบรคใช้งานได้ดีหรือไม่ เพราะในตอนใช้งานจริง เวลาจอดรถเข็นก็ควรจะใช้เบรคด้วย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้รถเข็นไถลจนหยุดไม่อยู่และเกิดอันตรายกับเด็กได้
  3. นอกจากการใช้งานเบรคดังที่กล่าวไว้ในข้อ 2 แล้วสิ่งที่ควรทำควบคู่กันก็คือการใช้สายรัดนิรภัยเช่นเดียวกับที่ใช้กับคาร์ซีทด้วย ส่วนนี้จะป้องกันเด็กกระโดดออกจากรถเข็น หรือตกจากรถเข็นได้
  4. รถเข็นเด็กบางบางแบรนด์สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ แต่บางแบรนด์ก็ไม่สามารถถอดได้ แน่นอนว่าแบบที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้นั้นจะตอบโจทย์ในเรื่องของการรักษาความสะอาดมากกว่า คุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์รถเข็นเด็กก่อนที่จะซื้อให้ดี
  5. ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การเลือกใช้รถเข็นเด็กควรเลือกแบบที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้เด็กอึดอัดหรือหายใจลำบาก แต่ในขณะเดียวกันก็ควรเลือกแบบที่หลังคาเปิดปิดป้องกันรังสี UV ได้ด้วยเช่นกัน 
  6. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดรถเข็นเด็กนั้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะผิวเด็กมีความบอบบางและไวต่อสิ่งเร้ากว่าผู้ใหญ่อย่างเรามาก จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรระมัดระวัง
  7. หากพ่อแม่ท่านใดมีงบประมาณจำกัด ไม่พอต่อการซื้อรถเข็นเด็กก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะที่จริงแล้วรถเข็นเด็กไม่ใช่ปัจจัยหลัก เป็นสิ่งที่ไม่ต้องมีก็ได้ แต่หากมีก็เหนื่อยน้อยกว่า หากมีงบน้อยไม่สามารถซื้อรถเข็นได้ แต่อยากได้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นแทนแนะนำเป็นเป้อุ้มเด็กค่ะ แม้ว่าจะต้องอุ้มเด็กอยู่ในวัยหนึ่งเป้อุ้มเด็กก็จะช่วยรองรับน้ำหนักส่วนหนึ่งของเด็กได้ ลดความเหนื่อยของคุณพ่อคุณแม่ได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ

พ่อแม่ยุคใหม่มีอะไรให้เรียนรู้กันอีกมาก การทำความสะอาดรถเข็นเด็กก็เปรียบเสมือนด่านเล็กๆ ในการดูแลเด็กคนหนึ่ง ดังนั้น ขอให้ทุกท่านผ่านด่านนี้โดยสวัสดิภาพนะคะ